ทำไมต้องรู้จัก พฤติกรรมผู้บริโภค ? รู้จักดี ธุรกิจมีชัยไปกว่าครึ่ง

ทำไมต้องรู้จัก พฤติกรรมผู้บริโภค _ รู้จักดี ธุรกิจมีชัยไปกว่าครึ่ง
ให้คะแนน post

พฤติกรรมผู้บริโภค คือ การศึกษาและวิเคราะห์การตัดสินใจ การเลือกซื้อ และการใช้สินค้าหรือบริการของผู้บริโภค การทำความเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักการตลาดและธุรกิจต่างๆ เนื่องจากจะช่วยให้สามารถวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุดมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความหมาย ประเภท และประโยชน์ของพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้คุณนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจได้


พฤติกรรมผู้บริโภค คืออะไร?

พฤติกรรมผู้บริโภค คืออะไร

พฤติกรรมผู้บริโภค (Consumer Behavior) หมายถึง กระบวนการและวิธีการที่ผู้บริโภคใช้ในการเลือก ซื้อ ใช้ และกำจัดสินค้าและบริการ ความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคจะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น โดยพฤติกรรมเหล่านี้ถูกกำหนดด้วยหลายปัจจัย เช่น ปัจจัยส่วนบุคคล (อายุ การศึกษา อาชีพ) ปัจจัยทางสังคม (ครอบครัว กลุ่มเพื่อน) และปัจจัยทางจิตวิทยา (แรงจูงใจ การรับรู้)

ประเภทของ พฤติกรรมผู้บริโภค

พฤติกรรมการซื้อแบบปกติ (Routine Response Behavior)
พฤติกรรมการซื้อแบบปกติเป็นการซื้อสินค้าที่ผู้บริโภคคุ้นเคยและซื้อบ่อยครั้ง เช่น สินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสบู่ ยาสีฟัน หรือของใช้ที่มีมูลค่าต่ำ การซื้อแบบนี้มักไม่ต้องการการตัดสินใจที่ซับซ้อน เนื่องจากผู้บริโภคคุ้นเคยกับสินค้าหรือบริการเหล่านั้นอยู่แล้ว

พฤติกรรมการซื้อที่ต้องการการค้นคว้า (Limited Decision Making)
พฤติกรรมแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภคต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้า เช่น การเลือกซื้อเสื้อผ้า หรือรองเท้า ซึ่งผู้บริโภคอาจเปรียบเทียบระหว่างสินค้าหลายแบรนด์หรือหลายรุ่น เพื่อให้ได้สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการมากที่สุด

พฤติกรรมการซื้อที่ต้องการการตัดสินใจอย่างละเอียด (Extended Decision Making)
พฤติกรรมการซื้อที่ต้องการการตัดสินใจอย่างละเอียดมักเกิดกับสินค้าที่มีมูลค่าสูง หรือสินค้าที่ผู้บริโภคไม่คุ้นเคย เช่น รถยนต์ บ้าน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ผู้บริโภคจะใช้เวลามากในการศึกษาข้อมูลและเปรียบเทียบสินค้าก่อนการตัดสินใจ

พฤติกรรมการซื้อที่เกิดจากแรงกระตุ้น (Impulse Buying)
การซื้อที่เกิดจากแรงกระตุ้นคือการซื้อที่ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อทันทีเมื่อเห็นสินค้าหรือโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น การซื้อขนมขบเคี้ยว หรือของชิ้นเล็กที่วางอยู่ใกล้แคชเชียร์ การตลาดที่มุ่งเน้นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการซื้อแบบนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างรวดเร็ว

ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค

ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค

ปัจจัยทางสังคม
ปัจจัยทางสังคม เช่น ครอบครัว เพื่อนฝูง และชุมชน มีอิทธิพลอย่างมากต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค การเลือกซื้อสินค้าหรือบริการบางอย่างอาจได้รับอิทธิพลจากความคิดเห็นหรือคำแนะนำของบุคคลในสังคมที่ผู้บริโภคอยู่ด้วย

ปัจจัยส่วนบุคคล
ปัจจัยส่วนบุคคล เช่น อายุ เพศ การศึกษา อาชีพ และรายได้ ก็มีผลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค สินค้าบางอย่างอาจตอบโจทย์ความต้องการของคนในช่วงอายุหนึ่งมากกว่าอีกช่วงอายุหนึ่ง หรือเพศชายและเพศหญิงอาจมีความสนใจในสินค้าหรือบริการที่แตกต่างกัน

ปัจจัยทางจิตวิทยา
ปัจจัยทางจิตวิทยา เช่น แรงจูงใจ การรับรู้ ความเชื่อ และทัศนคติ มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภค ตัวอย่างเช่น ผู้บริโภคที่มีแรงจูงใจในการรักษาสุขภาพอาจเลือกซื้อสินค้าอาหารเสริม หรือสินค้าที่มีคุณสมบัติตอบโจทย์ด้านสุขภาพมากกว่าสินค้าอื่น

ประโยชน์ของการศึกษาและเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค

ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ
การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้ตรงกับความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการเลือกช่องทางการโฆษณา การกำหนดราคา หรือการส่งเสริมการขาย ซึ่งทำให้ธุรกิจมีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น

เพิ่มความสามารถในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ธุรกิจที่เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคจะสามารถสร้างเนื้อหาหรือผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด เช่น การสร้างโฆษณาที่โดนใจ หรือการออกแบบโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจลูกค้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า

ช่วยในการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ
การศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคจะทำให้ธุรกิจทราบถึงความคิดเห็นและความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เช่น หากลูกค้ามีปัญหาเกี่ยวกับการใช้งานผลิตภัณฑ์ ธุรกิจสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น

สร้างความภักดีต่อแบรนด์
การตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างเหมาะสมและตรงจุดจะช่วยสร้างความภักดีต่อแบรนด์ เมื่อผู้บริโภครู้สึกว่าธุรกิจให้ความสำคัญและสนใจในความต้องการของตน พวกเขามักจะกลับมาใช้บริการหรือซื้อสินค้าจากแบรนด์นั้นอีกครั้งในอนาคต

เพิ่มโอกาสในการสร้างการตลาดแบบปากต่อปาก
ผู้บริโภคที่พอใจกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจมักจะแชร์ประสบการณ์ผ่านทางโซเชียลมีเดียหรือแนะนำให้กับคนรอบข้าง ซึ่งจะเป็นการสร้างการตลาดแบบปากต่อปาก (Word-of-mouth marketing) ที่มีประสิทธิภาพและช่วยให้ธุรกิจได้รับความสนใจจากลูกค้าใหม่ ๆ

ธุรกิจหรือ Case Study ที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค

ธุรกิจหรือ Case Study ที่ประสบความสำเร็จจากการเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค

การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคไม่เพียงแต่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวางกลยุทธ์การตลาดได้อย่างแม่นยำ แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างความสำเร็จในระยะยาวได้ หลายบริษัทที่นำข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขาย สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า และขยายฐานลูกค้าได้มาก มีดัง

  1. Starbucks: การปรับตัวตามความต้องการของผู้บริโภค
    Starbucks คือหนึ่งในตัวอย่างของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในการวางแผนธุรกิจและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทใช้ข้อมูลพฤติกรรมของลูกค้าในการตัดสินใจเรื่องการสร้างสรรค์เมนูใหม่ การตกแต่งร้าน และการให้บริการที่เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น

หนึ่งในกลยุทธ์ที่ทำให้ Starbucks ประสบความสำเร็จคือการปรับเมนูให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละภูมิภาค ตัวอย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่น Starbucks ได้พัฒนาเมนูที่เข้ากับวัฒนธรรมการบริโภคของคนญี่ปุ่น โดยการนำเสนอเครื่องดื่มที่มีรสชาติชาเขียวมัทฉะ ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และเมนูนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขายดีของ Starbucks ในภูมิภาคนั้น

นอกจากนี้ Starbucks ยังให้ความสำคัญกับพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีของลูกค้า โดยการสร้างแอปพลิเคชันมือถือที่ให้ลูกค้าสามารถสั่งเครื่องดื่มและจ่ายเงินผ่านแอปได้อย่างสะดวกสบาย การสร้างแอปที่ตรงกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคช่วยให้ Starbucks สามารถขยายฐานลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง

  1. Nike: การสร้างความเป็นส่วนตัวด้วยข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค
    Nike เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในการพัฒนาสินค้าและสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแรงกับลูกค้า Nike ใช้ข้อมูลจากการติดตามพฤติกรรมการออกกำลังกายของผู้ใช้แอป Nike Run Club และ Nike Training Club เพื่อวิเคราะห์ว่าลูกค้าชอบออกกำลังกายแบบไหน และใช้เวลาในการออกกำลังกายนานเท่าไหร่

จากข้อมูลเหล่านี้ Nike สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เช่น การแนะนำรองเท้าวิ่งหรืออุปกรณ์ออกกำลังกายที่เหมาะกับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ Nike ยังสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของพวกเขา ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความภักดีต่อแบรนด์และเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ

  1. Amazon: การใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การซื้อ
    Amazon เป็นหนึ่งในบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภค บริษัทนี้ใช้ข้อมูลการค้นหาและการสั่งซื้อของลูกค้าในการแนะนำสินค้าที่พวกเขาอาจสนใจ โดยการใช้เทคโนโลยี AI และ Machine Learning ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค ทำให้ Amazon สามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ

Amazon ยังใช้เทคโนโลยี Personalization เพื่อแสดงสินค้าที่ตรงกับความสนใจและพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคแต่ละราย การปรับปรุงประสบการณ์การช้อปปิ้งให้เป็นส่วนบุคคลนี้ทำให้ Amazon สามารถเพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. Coca-Cola: การทำการตลาดที่เน้นพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย Coca-Cola เป็นแบรนด์ที่ใช้ข้อมูลพฤติกรรมผู้บริโภคในการทำแคมเปญการตลาดที่โดดเด่น ตัวอย่างเช่น แคมเปญ “Share a Coke” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากในการดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคเยาวชน Coca-Cola ใช้ข้อมูลจากการวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายเพื่อปรับข้อความและสื่อโฆษณาให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มนี้

ในแคมเปญนี้ Coca-Cola ได้พิมพ์ชื่อบุคคลยอดนิยมบนขวด Coca-Cola ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อขวดที่มีชื่อของพวกเขาหรือคนที่พวกเขารักได้ การนำเสนอสินค้าที่ตรงกับพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคทำให้ Coca-Cola สามารถสร้างกระแสการตลาดที่โดดเด่น และเพิ่มยอดขายได้อย่างมากในช่วงเวลาอันสั้น


พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจควรทำความเข้าใจ เพราะสามารถนำไปใช้ในการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ และเพิ่มโอกาสในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ การทำความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคยังช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ดียิ่งขึ้น สร้างความภักดีต่อแบรนด์ และเพิ่มยอดขายในระยะยาว