ในสมัยนี้การเรียนรู้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องเรียน และไม่จำเป็นต้องเสียค่าเรียนแพง คุณสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ที่มีคุณภาพสูงได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้คุณยังสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านอินเทอร์เน็ต คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี จึงเป็นอีก 1 ทางเลือกที่ช่วยให้เราได้พัฒนาตนเอง เพิ่มทางเลือกให้เราได้โดยใช้ไม่จำเป็นต้องเสียเงินแพงๆ วันนี้ LIGHTBOXTHAILAND จะพาไปรู้จักเว็บไซต์ที่มีคอร์สออนไลน์ฟรีทั้งไทยและต่างประเทศ เรียนจบได้รับใบเซอร์เอาไปอัพเงินเดือนได้อีกด้วย
Table of Contents
Toggle10 เว็บไซต์ คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ทั้งไทย และ ต่างประเทศ
1. CMU Online KC-Moodle Chiang Mai University
CMU Online เป็นแพลตฟอร์มที่ให้คอร์สเรียนออนไลน์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Chiang Mai University)
ข้อดี: มีคอร์สเรียนในหลากหลายสาขาวิชา, เนื้อหาคอร์สเรียนคุณภาพสูง, เปิดให้เข้าถึงฟรี
ข้อเสีย: อาจจำกัดในการเข้าถึงคอร์สเรียนที่ส่งเสริมการเรียนรู้แบบปฏิบัติการ
2. ThaiMOOC (thaimooc.org)
ThaiMOOC เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ของ โครงการมหาวิทยาลัยไซเบอร์ไทย (Thailand Cyber University) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ข้อดี: มีคอร์สเรียนในหลากหลายสาขาวิชาและทักษะ จากสถาบันชั้นนำหลากหลายที่ , คอร์สเรียนมีคุณภาพและเนื้อหาที่ครอบคลุม, เปิดให้เข้าถึงฟรี
ข้อเสีย: อาจจำกัดในการเข้าถึงคอร์สเรียนบางคอร์สในขณะที่ไม่เปิดสอน
3. Gen Next Academy (tunext.com)
เว็บ Gen Next Academy เป็น คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ภายใต้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีให้เลือกเรียนประมาณ 90 คอร์ส สอบผ่านมีใบรับรอง Certificate ให้ ทั้งเรียนออนไลน์ เข้าเรียนกับนักศึกษา ไปถึงคอร์สระยะสั้น
ข้อดี: มีคอร์สเรียนออนไลน์น่าสนใจเยอะมาก เนื้อหาแต่ละคอร์สจะค่อนข้างลึก
ข้อเสีย: มีคอร์สฟรีน้อย ไม่ค่อยครอบคลุม
4. SkillLane
เป็นแพลตฟอร์มคอร์สเรียนออนไลน์ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้คอร์สเรียนทางธุรกิจและเทคโนโลยี หลักสูตรคุณภาพสูงจาก SkillLane มีคอร์สเรียนที่เน้นคุณภาพสูงโดยมีผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เป็นผู้สอน มีการจัดทำหลักสูตรที่ถูกออกแบบอย่างมีเอกลักษณ์เพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ที่แท้จริงและประโยชน์ เน้นเรียนรู้เพื่อให้ใช้งานในชีวิตการทำงานจริงได้ เช่น การเงินการลงทุน การพัฒนาตัวเอง การใช้โปรแกรมต่าง ๆ สอนโดยผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้น ๆ
ข้อดี: มีคอร์สฟรีที่แทบครอบคลุมทุกสาขาอาชีพไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี การตลาด ธุรกิจ การเงิน ภาษา
ข้อเสีย: ส่วนใหญ่มักจะเป็นความรู้พื้นฐาน หากอยากได้ความรู้ที่ลึกอาจจะต้องเสียเงินเรียน
5.Coursera (www.coursera.org):
Coursera เป็นเว็บไซต์เรียนออนไลน์ที่มีคอร์สเรียนจากมหาวิทยาลัยและสถาบันชั้นนำทั่วโลก เป็นแพลตฟอร์มรวมคอร์สเรียนออนไลน์แบบ Massive Open Online Course (MOOC) หรือหลักสูตรคอร์สเรียนออนไลน์ที่ “เปิด” เสรีให้บุคคลทั่วไปศึกษา
ข้อดี: มีหลากหลายคอร์สเรียนให้เลือกมากมายทั้งในด้านธุรกิจ เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ ศิลปะ และอื่นๆ มีการรับรองประสิทธิภาพของคอร์สเรียนโดยมหาวิทยาลัยชั้นนำ
ข้อเสีย: บางคอร์สเรียนมีค่าใช้จ่ายและจำเป็นต้องสมัครสมาชิกเพื่อเข้าถึงเนื้อหาแบบเต็ม
6.Udemy (www.udemy.com):
Udemy เป็นแพลตฟอร์ม คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ที่เน้นคอร์สเรียนที่ถูกพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา มีทั้งฟรี และเสียเงิน ที่สำคัญบางคอร์สมีราคาที่ถูกมากๆ แค่หลักร้อยต้นๆ ก็สามารถเรียนได้แล้ว
ข้อดี: มีคอร์สเรียนจำนวนมากให้เลือก โดยครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชา เช่น เทคโนโลยี ธุรกิจ ศิลปะ ภาษา และอื่นๆ และสามารถเข้าถึงเนื้อหาตลอดเวลาหลังจากซื้อคอร์สเรียนแล้ว บางคอร์สก็ถูกเหมือนได้ฟรี
ข้อเสีย: คุณภาพของคอร์สเรียนแตกต่างกันไป และบางครั้งคอร์สบางคอร์สเรียนอาจไม่ได้รับการอัพเดตอยู่เสมอ
7.Skillshare (www.skillshare.com) คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี
Skillshare เป็นแพลตฟอร์ม คอร์สเรียนออนไลน์ ที่เน้นคลาสและคอร์สที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ กราฟิกดีไซน์ และทักษะทางสร้างสรรค์
ข้อดี: มีคลาสและคอร์สที่ให้เลือกมากมายในด้านศิลปะและงานสร้างสรรค์ เนื้อหามีการแบ่งปันและเรียนรู้จากสมาชิกคนอื่น ๆ
ข้อเสีย: ความหลากหลายของคอร์สเรียนอาจจำกัดในบางสาขาวิชา และไม่มีประกาศนียบัตรหรือการรับรองทางวิชาชีพ
8. Khan Academy (www.khanacademy.org):
Khan Academy เป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์ที่เน้นทักษะทางวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ วิศวกรรม ภาษา และหลักสูตรทางการศึกษา
ข้อดี: เนื้อหาการเรียนรู้ฟรีและสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา มีการอธิบายอย่างชัดเจนและการทดลองในการเรียนรู้
ข้อเสีย: คอร์สเรียนอาจจำกัดในบางสาขาวิชาและไม่มีประกาศนียบัตรหรือการรับรองทางวิชาชีพ
9.LinkedIn Learning (www.linkedin.com/learning):
LinkedIn Learning เป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะทางธุรกิจและอาชีพ
ข้อดี: มีคอร์สเรียนจากผู้เชี่ยวชาญและนักบริหารชั้นนำในแต่ละสาขาวิชา และสามารถแลกเปลี่ยนความรู้กับชุมชนผู้เรียนได้
ข้อเสีย: ต้องเป็นสมาชิก LinkedIn Premium หรือชำระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อเข้าถึงคอร์สเรียนบางส่วน
10. Codecademy (www.codecademy.com):
Codecademy เน้นการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมและทักษะด้านเทคโนโลยี เป็นเว็บเรียนโค้ดออนไลน์ที่โด่งดังมาก มีภาษาในการเรียนเขียนโค้ดออนไลน์ที่เยอะมากถึง 12 ภาษา ตั้งแต่ Java, Git, UNIX command line และอีกมากมาย
ข้อดี: มีคอร์สเรียนเน้นการเขียนโปรแกรมที่ให้เลือกมากมาย และมีหลากหลายภาษาโปรแกรมเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ตามความสนใจของตนเองได้
ข้อเสีย: บางคอร์สเรียนอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายและบางคอร์สอาจจะมีการแนะนำขั้นตอนอย่างไม่ชัดเจน
โดยทั่วไปแล้ว การเลือกเว็บไซต์ คอร์สเรียนออนไลน์ฟรี ขึ้นอยู่กับความสนใจและเป้าหมายการเรียนรู้ของแต่ละบุคคล แนะนำให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและดูตัวอย่างของคอร์สเรียนก่อนที่จะตัดสินใจลงทะเบียนเรียน และคำนึงถึงประโยชน์ที่ตรงกับความต้องการของคุณด้วย