สร้างแบรนด์ตัวเอง ในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีและการเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจแบรนด์สินค้าของตัวเองเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน แต่การที่จะประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์นั้นต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างดี วันนี้ lightboxthailand มีขั้นตอนการทำแบรนด์ (Branding) มาฝากกัน
Table of Contents
Toggleการสร้างแบรนด์ตัวเอง คืออะไร?
นอกจากการวางแผน กลยุทธ์ทางการตลาด ที่ดีแล้ว การสร้างแบรนด์ตัวเอง ไม่ใช่เพียงการแสดงตนเองทางโลกออนไลน์หรือออฟไลน์ แต่มันคือการสร้าง”พลัง”และ”นิสัย”ที่ดึงดูดให้ผู้คนมองเห็นและจดจำเรา มันเป็นการปั้นภาพลักษณ์และค่านิยมที่เราต้องการสื่อสาร, ตามทั้งด้วยการทำให้ภาพลักษณ์นั้นๆ กลายเป็นจริงผ่านทางคำพูด, พฤติกรรม, และการตัดสินใจทุกประการ.
แบรนด์ตัวเองที่แข็งแกร่ง ทำให้เราสามารถสร้างความไว้วางใจ และตั้งตำแหน่งตนเองในสังคมหรือวงการธุรกิจได้ ทำให้เราโดดเด่น ไม่สามารถถูกลืมลงง่ายๆ และเป็นตัวตนที่ไม่ซ้ำใคร การสร้างแบรนด์ตัวเองคือการทำให้คนรู้จัก จดจำ และมีความรู้สึกดีต่อ”เรา” ตลอดเวลา.
ข้อดี- ข้อเสียของการสร้างแบรนด์ตัวเอง
การสร้างแบรนด์สินค้าของตัวเองในยุคนี้ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีและการเข้าถึงข้อมูลที่ง่ายขึ้น ทำให้การเริ่มต้นธุรกิจแบรนด์สินค้าของตัวเองเป็นเรื่องที่เป็นไปได้สำหรับทุกคน แต่การที่จะประสบความสำเร็จในการสร้างแบรนด์นั้นต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวอย่างดี
ข้อดีของการสร้างแบรนด์ของตัวเอง
- มีแบรนด์เป็นของตัวเองทำให้ได้ผลกำไรที่คุ้มค่า
- เปิดโอกาสในการเปิดตลาดการค้า
- บริหารจัดการธุรกิจด้วยตัวเอง
- มีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาด
ข้อเสียของการสร้างแบรนด์ของตัวเอง
- ต้องใช้ต้นทุนสูง
- มีโอกาสขาดทุน
- ประสบความสำเร็จช้า
- ต้องระวังเรื่องข้อกฎหมาย
ศัพท์ที่คนทำแบรนด์ดิ้งควรรู้ / ศัพท์ สร้างแบรนด์ตัวเอง
ยุคนี้ที่ Digital Marketing ทวีความสำคัญมากขึ้น ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี การทำแบรนด์ดิ้ง (Branding) ยังคงความสำคัญมาตั้งแต่ยุคสื่อเก่าและไม่น้อยลงไปเลยในโลกปัจจุบัน วันนี้เรารวม 10 ศัพท์ Branding ที่คนทำธุรกิจควรรู้ เพื่อให้เข้าใจคอนเซ็ปต์โดยรวม:
- Brand: ชุดลักษณะของสิ่งที่ทำให้ธุรกิจมีเอกลักษณ์แตกต่างจากผู้อื่น ที่แสดงออกมาเป็นในเชิงสัญลักษณ์ เช่น ชื่อ, สโลแกน, โลโก้ และโทนต่างๆ
- Branding: การสร้าง ‘ภาพจำ’ ของธุรกิจ ผ่านกระบวนการวิจัย, พัฒนา, และประยุกต์ใช้องค์ประกอบต่างๆ เข้ากับธุรกิจ
- Brand Identity: บุคลิกภาพของตราสินค้า หรือ Brand Personality คือ เปรียบเหมือนลักษณะทางกายภาพ ไปจนถึงนิสัยเหมือนกับของคนคนหนึ่ง
- Positioning: การกำหนดจุดยืนของแบรนด์ที่ทำให้โดดเด่นในหมู่มวลแบรนด์อื่นๆ มากมายภายใต้ตลาดเดียวกัน
- Targeting: การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย รู้จักพฤติกรรม, ความต้องการ, ความรู้สึก, นิสัยใจคอ และ Lifestyle ของเขา
- Tagline: สโลแกนของแบรนด์ ที่สามารถรวม Brand Identity ตัวอย่าง พร้อมสื่อสารออกไปสู่กลุ่มเป้าหมาย
- Brand Awareness: การรับรู้ตราสินค้า คือความคุ้นเคยของผู้บริโภคโดยทั่วไปต่อแบรนด์ของเรา
- Brand Recognition: การที่ผู้บริโภคหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายสามารถจดจำและระลึกถึงแบรนด์ของเราได้โดยไม่ต้องระบุชื่อ
- Brand Extension: การต่อยอดตราสินค้า คือการที่ธุรกิจขยายและแตกแบรนด์ไปทำสินค้าและบริการใหม่
- Brand Valuation: การตีมูลค่าแบรนด์ หรือ Brand Value คือ การตีความมูลค่าทางธุรกิจของแบรนด์
8 ขั้นตอน การสร้างแบรนด์ตัวเอง
- เข้าใจค่านิยมและภารกิจ: ความเชื่อและค่านิยมที่คุณต้องการให้แบรนด์ของคุณสื่อไป ภารกิจคือเป้าหมายยิ่งใหญ่ที่คุณต้องการจะบรรลุ
- ทราบกลุ่มเป้าหมาย: ศึกษาว่ากลุ่มคนเหล่านี้เป็นอย่างไร สิ่งที่พวกเขาชอบและไม่ชอบ, วิธีที่พวกเขาตัดสินใจ
- ต้องการและความต้องการ: ค้นหาสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการจริง ๆ และสิ่งที่พวกเขาต้องการแต่ไม่รู้ว่าต้องการ
- หาข้อแตกต่าง : พยายามหาข้อแตกต่างในสิ่งที่ทำให้คุณต่างจากคู่แข่ง และทำให้คุณโดดเด่นในตาของลูกค้า
- สร้างประสบการณ์แบรนด์: จัดสรรทุกจุดสัมผัสระหว่างแบรนด์กับลูกค้า เพื่อสร้างประสบการณ์ที่คงเส้นคงวา
- ออกแบบตัวตนของแบรนด์: โลโก้, สี, แบบอักษร, และเสียงของแบรนด์ ทุกสิ่งนี้ควรสื่อค่านิยมและข้อแตกต่างของคุณ
- สื่อสารแบรนด์ของคุณ: เลือกช่องทางการสื่อสารที่เหมาะสมและสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพเพื่อเรียกดึงกลุ่มเป้าหมาย
- วัดผล: ติดตามและประเมินผลการสื่อสารแบรนด์ของคุณ ปรับปรุงแผนการตามความต้องการ
Case Study สร้างแบรนด์ตัวเอง ที่ประสบความสำเร็จ
การสร้างแบรนด์ตัวเองไม่ได้หมายถึงเพียงการผลิตสินค้าหรือบริการแล้วติดโลโก้ไปด้วยเท่านั้น แต่มันเป็นการสร้าง”ตัวตน” สำหรับธุรกิจและเป็นการสื่อสารค่านิยมและวิสัยทัศน์ของมันต่อผู้บริโภค
- Case Study: Apple Inc.
เมื่อพูดถึงแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง Apple คือตัวอย่างที่ไม่สามารถข้ามไปได้ แต่ความสำเร็จของ Apple ไม่ได้มาจากการที่พวกเขาผลิตสินค้าที่ดีเท่านั้น แต่ยังมาจากการสร้าง”ตัวตนแบรนด์”
- ความแตกต่างที่ชัดเจน: Apple ไม่เพียงแค่ขายสินค้า แต่ขาย”วิธีการคิด” พวกเขาสร้างความรู้สึกว่าผู้บริโภคที่ซื้อ Apple คือผู้ที่คิดอย่างต่างหาก, สร้างสรรค์ และยิ่งกว่าคนอื่น
- ความต่อเนื่องในดีไซน์: ผลิตภัณฑ์ของ Apple มีการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ละเอียดและสวยงาม ซึ่งสื่อถึงคุณภาพและความพิถีพิถัน
- ประสบการณ์การใช้งาน: Apple Store และการบริการหลังการขายเป็นส่วนสำคัญที่สร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภค ไม่ใช่เพียงการขายสินค้า แต่เป็นการสร้างความประทับใจ
การสร้างแบรนด์ไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนหนึ่ง แต่เป็นการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความไว้วางใจและความรักจากผู้บริโภค Apple เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและพลังของแบรนด์เมื่อถูกสร้างขึ้นอย่างถูกต้อง.
การสร้างแบรนด์ตัวเอง ที่มีความแข็งแกร่งและเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจควรมุ่งมั่น ด้วยขั้นตอนที่เราแนะนำข้างต้น คุณจะสามารถสร้างแบรนด์ที่ไม่เพียงแต่สร้างความประทับใจแต่ยังสร้างความไว้วางใจในใจของลูกค้าได้แน่นอน.